แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนในฝั่งยุโรป เพราะว่ามันเป็นเกมที่มีการรวมกันเล่นหลายคนและตัวเกมค่อนข้างสนุก ประวัติของแบล็คแจ็ค เกิดขึ้นในทวีปยุโรป ช่วงปี คศ. 1601 การเล่นก็จะมีความเข้าใจง่าย นั้นก็คือเพียงท่านนั้นมีไพ่ในมือแต้มใกล้เคียง 21 แต้ม ก็จะเป็นฝ่ายชนะ หากแต้มเท่ากัน 21 ก็จะถือว่าเป็นแต้มที่สูงสุด และจะได้อัตราการจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีกด้วย
และเมื่อผ่านมาไม่นานก็ได้มีการนำแบล็คแจ็คเข้ามาบรรจุลงในคาสิโนออนไลน์ เพื่อที่จะเป็นการบริการที่ดีขึ้น สะดวกสบายขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น เกมแบล็คแจ็คจึงเป็นเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนออนไลน์ในเวลานี้
กติกาการเล่นแบล็คแจ็ค bio gaming
หลักการง่ายๆ คือหลังจากแจกไพ่ครบ ทุกคนสามารถจั่วไพ่ ได้ไม่จำกัด จั่วจนกว่าแต้มของคุณจะเกิน 21 หรือได้แต้มที่พอใจ หรือแต้มเกิน 21 ก็จะหมดสิทธิ์จั่วเช่นกัน และ แบล็คแจ็คเป็นเกมการเล่นของผู้เล่นกับเจ้ามือ แต้มของผู้เล่นคนอื่นบนโต๊ะ ไม่ส่งผลต่อไพ่คุณ
แต้มของไพ่
- ไพ่ตั้งแต่ 2 – 10 มีแต้มตามหน้าของไพ่
- ไพ่ J Q K มีค่าเท่ากับ 10 แต้ม
- A มีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ก็แล้วแต่ไพ่ในมือของท่านจะมีแต้งรวมเท่าไหร่นั้นเอง
- แต้มรวมของไพ่เท่ากับ 21 คือไพ่แบล็คแจ็ค
- การประกัน
เมื่อดีลเลอร์ที่หงายใบแรกนั้นคือ A เกมก็จะมีระบบประกันขึ้นมา เพื่อที่จะเป็นสิ่งประกันความเสี่ยงหากเจ้ามือนั้นมีแต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เงินรางวัลของการประกัน ก็เท่ากับครึ่งหนึงของเงินที่ท่านนั้นวางเดิมพัน หากเปิดไพ่ขึ้นมาแล้ว เจ้ามือไม่ได้แต้ม 21 หรือแบล็คแจ็ค เกมก็จะดำเนินต่อไป หากแต้มเสมอกัน ท่านก็จะสามารถรับเงินของท่านคืน
- เพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่า
หากเจ้ามือเปิดไพ่สองใบแรกแล้ว เจ้ามือไม่ได้แบล็คแจ็ค ผู้เล่นจะมีโอกาศเรียกไพ่เพิ่ม และสามารถเพิ่มเดิมพันเป็นสองเท่าได้ และเมื่อท่านนั้นเลือกเดิมพันเป็นสองเท่า ดีลเลอร์นั้นจะแจกไพ่ไห้ท่านนั้นเพียงใบเดียว แต่หากท่านเลือกจั่วไพ่เพิ่ม ท่านก็จะสามารถเพิ่มไพ่ได้ตามที่ท่านนั้นต้องการ และหากเลือกที่จะหยุดจั่ว ท่านจะไม่ได้ไพ่เพิ่มเลยนั้นเอง
- การแยกไพ่
หากไพ่ในมือของท่านนั้น มีค่าเท่ากันในสองใบแรกเช่น 2,2 4,4 A,A ท่านจะสามารถเลือกแยกไพ่ออกเป็นสองมือได้ โดยเงินวางเดิมพัน จะต้องเท่ากับเงินเดิมพันหลักของท่าน เช่นหากท่านวางเดิมพันหลัก 100 แยกไพ่แล้ว ท่านจะต้องวางเดิมพันขาล่ะ 100 นั้นเอง และเมื่อเมื่อแยกไพ่แล้ว ท่านก็จะสามารถเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นการจั่วไพ่ การหยุดจั่ว และแบบต่างๆนั้นเอง
- ผลลัพธ์ในการเล่น
หากแต้มในมือท่าน มีแต้มเกิน 21 ท่านจะแพ้ทันที และท่านจะเสียเงินทันที
- หากทุกคนได้แต้มที่พอใจแล้ว ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่ หากเจ้ามือมีแต้มเท่ากัน 17 นั้นจะไม่สามารถจั่วไพ่เพิ่มได้
- ท่านจะชนะนั้นก็ต่อเมื่อ ไพ่ในมือท่านนั้นมีแต้มสูงกว่าดีลเลอร์ และไพ่ของท่านนั้นเป็นแบล็คแจ็ค และหากมีไพ่เสมอกัน ท่านจะได้รับเงินเดิมพันคืน
รูปแบบการวางเดิมพัน
การวางเดิมพันของไพ่แบล็คแจ็ค biogaming1 นั้น มันมีการวางเดิมพันข้างเคียง(Bet Side) ได้อีกด้วย มันจึงทำไห้มีรูปแบบการวางเดิมพันที่ไห้ท่านนั้นสามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 21+3, Perfect Pair, Bet Behind เราจะมาอธิบายการเดิมพันแต่ล่ะอย่างไห้ท่านนั้นรู้จัก เพื่อที่จะทำให้ท่านรู้จักกับรูปแบบการเดิมพันนี้มากขึ้น
วางเดิมพัน Perfect Pair
- เป็นการวางเดิมพันที่ทำไห้ท่านนั้นมีโอกาศชนะเพียงแค่ใช้ไพ่ 2 ใบแรกเท่านนั้น โดยที่ไพ่ของท่าน 2 ใบแรกนั้นจะต้องเป็นไพ่คู่ เช่น 2-2, 3-3, 4-4, Q-Q เป็นต้น
- คู่เหมือน ไพ่ทั้งสองใบจะต้องมีดอกเดียวกัน เช่น 2 ใบ A โพแดงสองใบ จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 25 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- คู่สี ไพ่ทั้งสองใบนั้นจะต้องมีสีเหมือนกันสองใบ แต่คนล่ะดอกได้ เช่น 2 โพแดงกับ 2 ข้าวหลามตัด อัตราการจ่ายอยู่ที่ 12 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- คู่ผสม ดอกและสีต่างกัน เช่น 10 โพแดง กับ 10 โพดำ อัตราการจ่ายอยู่ที่ 6 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
วางเดิมพัน 21+3
การเดิมพัน 21+3 คือการที่ไพ่ในมือของท่านนั้นมีโอกาสที่จะเกิดการ ตองเหมือน, สเตรทฟลัช, ตอง,สเตรท,ฟลัช และหากท่านนั้นชนะในรูปแบบที่พูดมานี้ ก็จะมีอัตราการจ่ายที่เยอะมาก
- ตองเหมือน คือการที่มีไพ่สามใบเหมือนกัน เช่น A โพดำสามใบ และจะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 100 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- สเตรทฟลัช คือการเรียงกันตามลำดับและมีไพ่ดอกเดียวกันเช่น 10 J Q โพแดง เป็นต้น อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 40 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- ตอง คือการที่มีไพ่สามใบนั้นเหมือนกัน แต่สามารถมีสีและดอกต่างกันได้ เช่น 3 3 3 สีต่างกัน ดอกต่างกันนั้นเอง อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 30 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- สเตรท คือไพ่ในมือนั้นเรียงกันตามลำดับ แต่สามารถมีสีและดอกของไพ่นั้นแตกต่างกันได้ เช่น 2 โพแดง 3 ดอกจิก 4โพดำ อัตราการจ่ายจะอยู่ที่ 10 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
- ฟลัช คือการที่ไพ่ในมือนั้นมีดอกเดียวกันสามใบ เช่น 2 โพแดง 5 โพแดง 8 โพแดง จะมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 5 : 1 (ขึ้นอยู่กับโต๊ะนั้นๆ)
วางเดิมพัน Bet Behind
Bet Behind ก็คือการเดิมพันตามผู้เล่นคนอื่น นั้นก็คือ ท่านนั้นจะสามารถอ้างอิงการชนะจากไพ่ของผู้เล่นคนอื่นได้ แต่ท่านนั้นจะสามารถกำหนดเงินเดิมพันเอง และไม่สามารถบอกไห้เขานั้นจั่วไพ่เพิ่ม หรือหยุดเรียกไพ่เพิ่มได้ หากท่านนั้นวางเดิมพันตามใครแล้ว ท่านจะไม่มีสิทธิ์ทำอะไรนอกจากวางเดิมพันนั้นเอง
ย่อหน้าสุดท้ายของแบล็คแจ็ค (Blackjack) เกมคาสิโนที่ได้รับความยอมรับจากทั่วโลก biogaming1
นี้ก็คือกติกาและรูปแบบการวางเดิมพันแบบต่างๆของเกมส์ไพ่แบล็คแจ็ค ที่ผมนั้นได้ทำการศึกษาเพื่อที่จะมาเขียนเป็นวิธีการเล่นเพื่อที่จะทำไห้ผู้อ่านนั้นมีความเข้าใจในการเล่นเกมแบล็คแจ็คมากขึ้น